Credit: The Australian Ballet
หลังจากเข้าใจเนื้อเรื่องของ The Nutcracker กันไปแล้ว คราวนี้เรามาฟังเรื่องราวบัลเล่ต์อีกเรื่องที่สนุก ท่าเต้นสวย และเพลงเพราะไม่แพ้กัน นั่นก็คือ The Sleeping Beauty
ถึงแม้หลายๆท่านอาจจะคุ้นเคยกับเนื้อเรื่องจากภาพยนตร์อนิเมชั่นของดิสนี่ย์แล้วบ้าง แต่ในเวอร์ชั่นบัลเล่ต์ จะมีรายละเอียดลางจุดที่ไม่เหมือนไปซะหมด กลายเป็นจุดจับผิดที่แสดงให้เห็นว่าใครดูบัลเล่ต์แล้วจริงๆ เพราะฉะนั้นไปฟังเรื่องราวกันเลยดีกว่าค่ะ
เรื่องย่อ:
บทนำ: พระราชาและพระราชินีจัดงานพิธีขนานนาม (grand christening) ให้กับเจ้าหญิงองค์ใหม่ นามว่า 'ออโรร่า' โดย ณ วันงานนั้นก็มีนางฟ้า 6 องค์มาร่วมอวยพรให้กับเจ้าหญิง รวมถึงนางฟ้าไลเลคผู้ทรงอำนาจ โดยระหว่างที่เหล่านางฟ้าเต้นรำล้อมรอบเจ้าหญิงเพื่อมอบพรให้ ทันใดนั้นนางฟ้านามคาราโบส (Caraboose) ผู้ชั่วร้ายก็ปรากฎกายด้วยความโกรธแค้นที่ไม่ได้รับเชิญให้มาร่วมงาน นางจึงสาปแช่งให้เจ้าหญิงออโรร่าเติบโตขึ้นมาเลอโฉม แต่จะถูกเข็มแทงจากกระสวยถีบจักรของเธอจนจบชีวิตในงานครบรอบวันเกิด 16 ปี ทั้งพระราชาและพระราชินีต่างก็ตระหนกพร้อมอ้อนวอนขอให้คำสาปไม่เป็นจริง นางฟ้าไลเลคจึงเข้ามาเปลี่ยนแปลงคำสาปให้เจ้าหญิงต้องนิทราเป็นเวลา 100 ปี และถูกปลุกขึ้นจากจุมพิตของเจ้าชายรูปงามแทน
Credit: The Australian Ballet
Credit: English National Ballet
องค์ที่ 1: เจ้าหญิงออโรร่าเติบโตเป็นหญิงงามและย่างเข้าสู่วัย 16 พรรษา ทุกๆคนก็พร้อมจัดงานเลี้ยงฉลองให้กับเจ้าหญิงที่พระราชวัง และในงานเลี้ยงนั้น ก็มีบรรดาเหล่าองค์ชายจากต่างแคว้นและชายหนุ่มที่หมายปองเจ้าหญิงเข้ามาร่วมเต้นจำนวน 4 คน
ทันใดนั้น ก็ปรากฎคนแปลกหน้าสวมเสื้อคลุมผืนหน้าปิดบังหน้าตาเข้ามาในงานเลี้ยง พร้อมมอบของขวัญให้กับเจ้าหญิงเป็น 'กระสวย' ออโรร่าไม่เคยเห็นของขวัญรูปร่างหน้าตาแบบนั้นมาก่อน จึงรับมาพร้อมเต้นอย่างดีอกดีใจ เมื่อพระบิดาและพระมารดาเห็นเข้าก็ตกใจ เพราะรู้ว่าในพระสวยนั้นมีเข็มแหลมคมอยู่จึงพยายามที่จะชิงกลับมา ทันใดนั้นเข็มก็ทิ่มนิ้วมือเจ้าหญิงและพระองค์ก็สลบไสลไป จากนั้นคนแปลกหน้าก็เฉลยกายเป็น คาราโบส (Caraboose) พร้อมหัวเราะอย่างสะใจเพราะคำสาปของเธอ
อย่างไรก็ตาม นางฟ้าไลเลคก็ก้าวเข้ามาเพื่อแก้ไขสถานการณ์พร้อมเปลี่ยนคำสาปให้เจ้าหญิงเพียงนิทราไป มิได้วายชนม์ และในขณะที่ออโรร่าถูกพาไปยังเตียงบรรทม นางฟ้าไลเลคก็ร่ายเวทมนตร์ให้ทั้งอาณาจักรสลบไสลไปพร้อมกับกับเจ้าหญิงและจะถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้งเมื่อองค์หญิงตื่นจากนิทรา
องค์ที่ 2: 100 ปีผ่านไป เจ้าชายเดซิรีซึ่งออกประพาสล่าสัตว์ในป่าก็ได้พบกับนางฟ้าไลเลค ทันใดนั้นเจ้าชายก็เห็นนิมิตจากนางฟ้าไลเลคเป็นเจ้าหญิงผู้เลอโฉมที่สลบไสลในอาณาจักรแห่งหนึ่ง เจ้าชายก็รู้สึกผูกพันและชมชอบเจ้าหญิงทันทีจึงขอให้นางฟ้าพาไปพบเจอ ระหว่างทาง ก็พบกับคาราโบส (Caraboose) ที่เข้ามาขัดขวาง แต่ก็พ่ายให้กับนางฟ้าไลเลคและเจ้าชายที่ร่วมมือกันจนเอาชนะไปได้ในที่สุด เมื่อถึงปราสาท เจ้าชายก็ได้พบและจุมพิตเข้าหญิงออโรร่า ปลุกนางพร้อมประชาชนทั้งอาณาจักรให้ตื่นจากนิทราในที่สุด และทั้งสองก็ตัดสินครองคู่กัน
Credit: The Australian Ballet
องค์ที่ 3: ในงานพิธีอภิเสกสมรส มีแขกต่างๆมากมายเข้ามาร่วมแสดงความยินดี ไม่ว่าจะเป็นหนูน้อยหมวกแดง แมวพุสอินบู๊ท และแม้กระทั่งเจ้าหญิงฟลอรีนจากบัลเล่ต์เรื่องบลูเบิร์ด นางฟ้าไลแลคก็ให้พรกับเจ้าหญิงและเจ้าชายทั้งสองครองคู่กันอย่างมีความสุข
ทราบเนื้อเรื่องของ The Sleeping Beauty กันตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว ชอบกันไหมคะ หากใครสนใจอยากชมการแสดงบัลเล่ต์เรื่องนี้สดๆ ขอเชิญชมได้ที่งาน Bangkok's International Festival of Dance & Music 2022 โดยงานนี้จัดการแสดงโชว์ศิลปะท๊อปๆจากทั่วทุกมุมโลก นอกเหนือจากบัลเล่ต์ Sleeping Beauty แล้วก็ยังมีเรื่อง Swan Lake และ The Nutcracker รวมไปถึงโชว์การเต้นรูปแบบต่างๆมากมายควรค่าแก่การชม รับรองว่าดูแล้วได้รับแรงบันดาลใจกลับไปเต็มๆ และจะเป็นประสบการณ์ชมศิลปะที่น่าจดจำแน่นอน ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bangkokfestivals.com
เรื่องน่ารู้ของ The Sleeping Beauty Ballet
นักออกแบบท่าเต้น: Marius Petipa
นักประพันธ์เพลง: Peter Tchaikovsky
Story: Based on the French fairy tale La Belle au bois dormant by Charles Perrault
Premiere: 1890, Imperial Mariinsky Theatre, St. Petersburg
Kommentare